[CR] โบกมือลามรสุมรอยสิวปรุประ ฉบับสาวหน้า(เคย)แพ้ครีม

ฟหกดสว!!!  อยากจะกรี๊ดร้องดังๆให้สมกับความคับแค้นใจของตัวเองที่เผลอไปใช้ครีมที่มีสารปรอท จากหน้าที่เคยไม่มีสิวไม่มีรอยเป็นเพราะความขี้เกียจแท้ๆเลยกลายมาเป็นสาวหน้าปรุแบบเจ็บใจที่สุด!!!

  
ก่อนอื่นต้องบอกว่า จขกท เป็นคนที่เป็นสิวมาตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่น ไม่เคยเจอประสบการณ์หน้าใสไร้รอยสิวเลยสักนิด ซึ่งถ้าอธิบายให้เห็นภาพแบบง่ายๆก็คือ เป็นสิวตอนเข้า ม.4 ตอนนั้นก็ยังไม่มีรอยอะไรมากมายแต่สิวก็มาตลอด กดสิวก็ไม่รู้จัก ตอนนั้นครีมที่ใช้ก็มีแค่การ์นิเย่สีเหลืองตัวนี้


ภาพประกอบจิ๊กของน้องมา รู้สึกตัวใหม่จะกระปุกเล็กกว่าตัวเก่า ตัวเก่าที่เราเคยใช้ขวดหนากว่านี้มาก


ตัวเดียวจริงๆค่ะ ครีมกันแดดไม่มี ไม่ใช้เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ประกอบกับตอนนั้นต้องนั่งรถไปเรียนโรงเรียนในตัวเมือง ตื่นเช้านอนดึก ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แล้วแม่ก็บอกว่า โตขึ้นเดี๋ยวสิวก็หายเลยไม่ได้สนใจอะไร - -

จนกระทั่งช่วง ม.6 สอบติดมหาวิทยาลัยสาขานิเทศ คราวนี้ก็เริ่มคิดล่ะ ว่าคณะนี้มีแต่คนสวยๆหล่อๆเต็มไปหมด ถ้าเราเข้าไปแล้วไม่สวยก็จะเหมือนแกะดำเลย ไม่ได้ล่ะ ยิ่งพอมาส่องหน้าตัวเอง โอ้โห ทำไมรอยสิวมันเพิ่มขึ้นขนาดนี้ล่ะะะะ ไม่รอละค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นเลยรีบหาวิธีรักษาด่วน!!

ตอนแรกไม่รู้จะทำยังไงก็เลยไปปรึกษาแม่ ตอนนั้นแม่เราก็หาหมอรักษาสิวอยู่คนนึง เราก็แบบเอาวะ ยอมจ่าย เพราะรักษาเองก็ไม่เก่งพอ เลยไปหาหมอกับแม่ค่ะ ช่วงแรกหมอก็ให้ยาดันสิว มันก็ขึ้นๆ แล้วก็ไปกดๆ กดเสร็จก็ไปเลเซอร์รักษารอยดำ (เลเซอร์ไปได้สองครั้งแล้วไม่เอาเลย เจ็บมาก กดสิวที่ว่าเจ็บเทียบไม่ติดเลย สรุป กลับมาทายาหมออย่างเดียว)

หลังๆก็ดีขึ้นนะคะ ตอน ปี 1 เราก็เริ่มหัดแต่งหน้าด้วย ซึ่งตรงนี้เราจะเริ่มรู้ล่ะ ว่าหน้าดีขึ้นหรือยัง เพราะถ้าเราใช้คอนซีลเลอร์น้อยลงหรือโบ๊ะแป้งบางลงแสดงว่า ร่องรอยของสิวดูจางลง ก็หาหมอไปเรื่อยจน ปี 2 จะขึ้น ปี 3 ก็หยุด

ซึ่งถ้าใครเคยไปหาหมอจะรู้ว่า เซตยาของหมอ จะเยอะมากกกกกกกกก เป็นขวดเป็นตลับเต็มไปหมดแล้วจะอยู่ได้แค่หนึ่งเดือนก็หมด ส่วนของเรา เราทิ้งไปตั้งแต่เลิกใช้ล่ะ ตอนนี้ก็ปีกว่า ไม่ได้ไปหาหมออีกเลย

ที่หยุดไปหาหมอนี่ก็เพราะเราเรียนมหาวิทยาลัยติดทะเลแต่คลีนิคหมออยู่ในจังหวัดเมืองหลวงเก่า เลยขี้เกียจนั่งรถไปกลับตามนัดแถมยังต้องรอคนที่มีคิวมาหาหมอเหมือนกันด้วย แล้วก็พอดีกับที่เราไปบ่นๆกับอาซึ่งเป็นน้องชายแม่ อาก็บอกว่าเพื่อนอาทำครีมขายอยู่อยากลองไหม ถ้าใช้ดีจะเป็นคนออกค่าครีมให้เอง
เราก็เอาซิ ของฟรีมีหรือจะพลาด (ไม่น่าเห็นแก่ของฟรีเลย T_T) ค่าครีมเช็ตละพันพอๆกับไปหาหมอไม่บวกค่ารถไปกลับ ค่าเสียเวลาอีก แล้วเราก็เชื่อใจเพื่อนอาด้วยเพราะเป็นคนใกล้ชิดไม่น่าหลอกกันก็เลยตัดสินใจเลิกไปหาหมอแล้วก็ให้เขาส่งครีมมาใช้เลย


ยืมรูปมาจากเน็ตค่ะ เพราะเราทิ้งทันทีที่แพ้ บอกเลยว่า เราใช้ครบเซตกว่านี้อีก มีครีมสตอเบอรี่ สบู่ล้างหน้า ครีมกันแดด ครีมกลางวัน กลางคืน ตกเซตละเกือบ 1,500

ปรากฏว่า หนึ่งเซตผ่านไป (ใช้ได้ประมาณเดือนนึง) หน้าดีขึ้นมาก จนเพื่อนร่วมสาขาที่ไม่เคยคุยด้วยยังทักว่า หน้าใสมากไปทำอะไรมา เรางี้ยิ่งปลื้มไปใหญ่ จำได้ว่า ช่วงนั้นไม่แต่งหน้าไปเรียนเลยค่ะ เพราะหน้าดีมาก ตัวเองก็เป็นคนมีคิ้วอยู่แล้วด้วย ก็ยิ่งโชว์ผิวหน้าใสๆไปใหญ่

เราไม่ค่อยมีรูปหน้าแบบชัดๆเท่าไหร่เพราะเป็นพวกไม่ค่อยถ่ายรูปหน้าตัวเอง อันนี้จำได้ว่า ช่วงนั้นแต่งหน้าคอนซีลเลอร์แทบไม่จำเป็นเลย ไม่ได้ใช้เลยด้วยซ้ำ

ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวแถมใช้ต่อมาอีกสองสามเซต สิวก็ไม่เห่อ เลยคิดว่าตัวนี้ใช้ดีมากจริงๆ ดีกว่าตอนไปหาหมออีกแน่ะ ถึงขั้นคิดจะไปเป็นตัวแทนขายเลยนะตอนนั้น  แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำเพราะกำลังสอบไฟนอลยุ่งๆอยู่

กระทั่งเข้าสู่เดือนที่หก ……

เริ่มล่ะ มันเริ่มแสดงอาการ สิวเริ่มขึ้นเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ยังคิดว่า มันเป็นธรรมดาเพราะสิวไม่ได้ขึ้นมานานมากๆแล้วบวกกับเราก็เลิกหาหมอแล้วด้วย หน้ามันจะมาดีเหมือนตอนหาหมอก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็ยังทำใจเย็น ใช้ครีมเซตนั้นต่อๆไป

ถัดมา 1 เดือน 2 เดือน และ 3 เดือน ทีนี้ล่ะ โอ้โห แม้แต่คอนซีลเลอร์ก็ปิดไม่อยู่ คือ สิวมันมาเยอะมากๆจนเรากดเป็นรอยไปทั่วทั้งหน้าโดยเฉพาะแก้มกับหน้าผาก เป็นจุดเล็กๆดำๆติดๆกัน น่าเกลียดมาก แถมตอนนั้นน่าจะประมาณปลาย ปี 3 เทอม 2 ออกไปกินเหล้าทุกคืน ทั้งกินเหล้า นอนดึก ใช้ครีมสารปรอท ครบเซต หน้าแย่แบบมากๆ จนทุกครั้งที่ส่องกระจก เราอยากจะร้องไห้


รอยอาจจะไม่ค่อยชัดค่ะเพราะแต่งหน้ากลบ แต่ขนาดแต่งหน้าแล้ว รอยเล็กๆน้อยๆก็ยังมีจนแบบ เฮ้อออออ ไม่อยากถ่ายรูปหน้าตัวเองเลย

คือ เข้าใจอารมณ์ไหมคะ จากคนที่เคยหน้าใสจนไม่ต้องแต่งหน้าไปเรียน มันเป็นหนักจนแต่งหน้าหนาแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ คอนซีลเลอร์ รองพื้นแพงๆ ยิ่งทายิ่งเน้นให้เห็นรอย ตอนนั้นหยุดใช้ทุกอย่างและมั่นใจว่าแพ้มันแล้วแน่ๆ เราใช้แค่โฟมอย่างเดียวค่ะ เป็นของฮาดะลาโบะ ที่เขาว่าคนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ สิวก็ยังเห่อขึ้น เราคิดว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องสำอางที่มีสารปรอท ทีนี้เรายิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ สุดท้ายเลยใช้แค่สบู่เดทตอลล้างหน้าก้อนเดียว


ขอยืมรูปมาจากเน็ตนะคะ เราใช้ก้อนนี้ สิบกว่าบาทเอง ใช้ล้างหน้าได้เกือบ 3 เดือน 55555555

โชคดีที่ช่วงนั้น ฝึกงานด้วย เราไปฝึกกับนิตยสารเล่มนึงอยู่ในออฟฟิศ ช่วงนั้นก็ใช้สบู่ล้างหน้าก้อนเดียวแล้วก็ซื้อน้ำตบไบโอเดิร์มมาช่วยด้วยก็ดีขึ้นเรื่องสิวแต่ยังไม่เต็มร้อย คือ ใช้ทุกอย่างน้อยมากๆจนเหมือนเบาไปเลย ทีนี้พอสิวน้อยลง เวลามันขึ้นเราก็เลยกด …..
ซึ่งตอนกดเนี่ย รู้แหละว่ามันเป็นรอยแน่ๆ แต่มือก็อ่ะนะ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เอานิ้วไปกดจนเป็นรอยแล้ว

แม่ก็ไปหาซื้อยาทารอยแผลเป็นเนื้อครีมของสกาเจลให้ใช้ ตอนนั้นเราก็ใช้ตาม คือ คิดว่าใช้อะไรตามแม่น่าจะดี มันก็โอเคขึ้นนะ แต่นานมากกว่าจะเห็นผล ประมาณหลอด 2 เกือบๆ 3 หลอดได้ ใช้อยู่ 5 เดือนกว่ารอยจะจาง

ก็ใช้แบบนั้นไปเรื่อยๆจนเลิกฝึกงานกลับมาเรียน ปี 4 เทอม 1 ซึ่งเป็นเทอมสุดท้าย (เราเรียนหลักสูตรสามปีครึ่ง ดังนั้น ปี 4 เทอม 1 คือ เทอมสุดท้ายของเราค่ะ) ได้รูมเมทคนใหม่และรูมเมทคนใหม่นี่เอง ที่เป็นคนพาเราให้รู้จักการเล่นเว็บบอร์ด
คือ รูมเมทคนใหม่ของเราชอบเครื่องสำอาง ชอบเข้ากระทู้โต๊ะเครื่องแป้ง จีบัน ดูรีวิวการแต่งหน้า ครีมใช้ดี พอเห็นเรามีปัญหาเรื่องรอยสิว รอยแผลเป็นบนใบหน้า นางก็บอกให้ลองเสิร์ชกระทู้ดู (เพราะส่วนตัวเรามักจะสนใจกระทู้ทั่วไปที่ไม่ใช่เรื่องความสวยซะมากกว่า)
เราก็ลองเลย เสิร์ชหายารักษารอยแผลเป็น ซึ่งก็มีตัวสกาเจลที่เราใช้ติดอันดับด้วยตลอด กับคนอื่นก็ดูใช้ได้ดี กับเราก็ใช้ได้ดีนะ แต่มันนานไปกว่าจะเห็นผล เราก็เลยคิดว่า มันน่าจะมีตัวที่เห็นผลไวกว่านี้

สุดท้ายไปลองซื้อมาเกือบทุกตัวที่ติดรีวิว ตามนี้



มีตัวสกาเจลที่ใช้อยู่แล้วด้วย แม่ซื้อให้แต่เราไม่ค่อยได้ใช้แต่ก็เก็บไว้เผื่อฉุกเฉินตัวอื่นหมดจะได้มีใช้  ซึ่งบางหลอดเอาจริงๆก็ไม่ค่อยได้ใช้เพราะรู้สึกไม่โดน หลอดเลยใหม่มาก

ซึ่งจากการลองใช้ของเรา ขอรีวิวตัวนี้เลยล่ะกัน เพราะตอบโจทย์เราตรงที่เห็นผลไว เราต้องการตัวที่รักษาแบบรวดเร็วซึ่งสำหรับบางคนบางตัวอาจจะใช้ได้ดี กระทู้นี้ของเราเป็นเพียงคำแนะนำในการใช้จากเราเท่านั้นนะคะ

ขอเริ่มในส่วนของการรักษาผิวหน้าก่อนเนอะ

1.จากที่เราบอก ตอนแรก เราใช้สบู่ก้อนเดทตอลล้างหน้า แนนอนว่าสิวลดลงแต่ก็ไม่ทั้งหมดแล้วก็เวลาสิวขึ้นก็ไม่ได้ช่วยยับยั้งอะไรขนาดนั้น เราเลยไปที่อีฟแอนด์บอย ตั้งใจไปซื้อตัวทายาแต้มสิว Tea tree acne gel แต่โดนพนักงานไซโคของยี่ห้อด๊อกเตอร์สมชายมาครบเซตซึ่งเราก็เชื่ออีกแล้ว 555555 เลยสอยมาทั้งหมด 3 ตัวค่ะ


ใช้ดีกับสาววัยรุ่นอย่างที่เขาโฆษณาค่ะ แต่เราวัยทำงานแล้ว 555555

จริงๆ เขาแนะนำตัวรอยดำมาด้วยแต่เราคิดว่าใช้แยกดีกว่ากลัวประสิทธิภาพมันไม่แรงพอ เซตนี้มีทั้งตัวทาก่อนล้างหน้าละลายสิวอุดตัน โฟมล้างหน้า และโลชั่นทาสิว โดยเวลาลองอะไรใหม่ เราจะให้ผลลัพธ์ของมันแค่สองอาทิตย์เท่านั้นค่ะ ถ้าสองอาทิตย์ไม่ดีขึ้นก็โบกมือบ๊ายบาย ปรากฏว่า พอลองใช้สองอาทิตย์แรกไม่แพ้ค่ะ สิวไม่ขึ้น อ่อ รูขุมขนกระชับลงด้วยค่ะ ตอนนี้ใช้มาได้เดือนแล้ว

2. มาต่อกันที่ตัวยาทารอยแผลเป็นกันค่ะ ตอนแรกเราใช้ สกาเจล มาเป็นแพคคู่ด้วย (แบบของที่ใช้กลางคืนจะเป็นเนื้อเจลใสกับแบบกลางวันจะเป็นเนื้อครีมผสมสารกันแดด)ใช้มาแปดเก้าเดือนเพราะยังไม่รู้จักตัวอื่น ถามว่าพอใจไหม แรกๆก็โอเค แต่พอใช้ไปสักพักก็รู้สึกว่า มันอยู่ตัว รอยใหม่ๆก็เริ่มไม่ค่อยจางล่ะ เราก็เลยลองหายาตัวใหม่มาทา ลังเลอยู่ระหว่างฮิรูสกากับเอลล่า แต่เลือกลองเอลล่ามาก่อนเพราะเป็นตัวใหม่ ส่วนฮิรูสกาไว้ลองทีหลังเผื่อเอลล่าไม่ได้ผล (แต่ก็ซื้อมาสำรองด้วยนะ ผู้บริโภคชั้นดี 555555) ตัวนี้จะได้มาเคลมหน้าทัน 55555555


เราซื้อขนาดหลอด 20 กรัมมา ใช้ได้นานมากเลย ^^

ซึ่งส่วนที่สะดุดตาเราก็คือ ตัวหอยทาก บนตัวกล่องที่ปกติเราจะเจอในครีมยี่ห้อหนึ่งที่ใหม่ ดาวิกา เป็นพรีเซนเตอร์ แต่ เอ๊ะ ทำไม มาอยู่ในยารักษารอยแผลเป็นได้ด้วยเหรอ? พอหาข้อมูลก็เลยรู้ค่ะ ว่ามันช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นหลุม(กรณีบีบสิวจนเป็นหน้าหลุม ซึ่งเราถือว่าโชคดีมากๆค่ะ ที่ไม่ได้เป็นรอยแผลเป็นประเภทนี้) ส่วนอื่นๆเพิ่มเติมก็คือ มีส่วนผสมจากหอมหัวใหญ่ ป้องกันรอยแผลเป็นชนิดนูนหรือคีลอยด์ ซึ่งเราว่าไอ้คุณสมบัติ 2 อย่างนี้ น่าจะไปช่วยในเรื่องของรอยแผลเป็นที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆได้ดีเลยล่ะ เช่น รถล้ม แผลผ่าตัด ไรงี้ ส่วนผสมสำคัญอย่างสุดท้ายก็คือ เปลือกสนที่จะช่วยให้สีผิวบริเวณแผลเป็นสม่ำเสมอค่ะ
สรรพคุณนางก็เยอะอยู่นะ ผสมหลายสิ่งมากกกกก ผลที่ได้ก็ดีเช่นกันนะ มาค่ะ มาดูกัน


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

มาดูวิวัฒนาการของเรากันค่ะ


หน้าก่อนใช้เอลล่านะคะ จะเห็นว่ามีรอยดำเล็กๆน้อยๆแบบจะหายก็ไม่หายสักที แถมบางรอยชัดมาก คอนซีลเลอร์ก็ปิดไม่อยู่


หลังใช้ได้สองอาทิตย์ค่ะ จางลงล่ะ สิวไม่ขึ้นด้วย โอเค ใช้ต่อ


เดือนนึงกับอีกเดือนกว่าๆค่ะ รวมเลยล่ะกัน เพราะเราว่ามันเห็นผลชัดตอนเดือนกว่าๆเนี่ยล่ะ

สรุปนะคะ ผลที่ได้คือ พอใจมาก เรารักษาตามขั้นตอนค่ะ ต้องหยุดสิวก่อนถึงจะรักษารอยได้ และแต่ละตัวผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ เราให้เวลาเห็นผล 2 สัปดาห์ค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าเร็วไป แต่สำหรับเราแล้ว ในยุคที่วงการความงามมันพัฒนาไปไกลมากกกกก เราว่าสองสัปดาห์ก็ไม่เร็วนะคะ แต่ก็เร็วกว่าตัวอื่นที่เคยใช้ แค่นี้เราก็พอใจมากละค่ะ  


รูปทั้งหมด เราพยายามถ่ายให้ได้แสงและมุมในเวลาใกล้เคียงกันค่ะ
ชื่อสินค้า:   Garnier , Dettol , Dr.Somchai ,Ella Scar Cream , Hiruscar ,Scagel , Biotherm , Fresh drop
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่